Command Palette
Search for a command to run

หนึ่งร้อยปีของกลศาสตร์ควอนตัม

ปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) ได้ถูกกำหนดให้เป็น ปีสากลแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม (International Year of Quantum Science and Technology: IYQ) โดยองค์การสหประชาชาติ1 เพื่อเฉลิมฉลองหมุดหมายสำคัญขององค์ความรู้มนุษยชาติ และเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของวิทยาการด้านควอนตัมในวงกว้าง

เหตุที่เลือกปีนี้ก็เพราะกลศาสตร์ควอนตัมมีอายุครบ 100 ปีเต็ม พอดี นับตั้งแต่ปี 1925 เป็นต้นมา ความเข้าใจของมนุษย์เกี่ยวกับธรรมชาติและความจริงได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ความรู้พื้นฐานที่ลึกซึ้งขึ้นได้ปูทางไปสู่เทคโนโลยีล้ำสมัยและสิ่งประดิษฐ์ที่ละเอียดอ่อน แม่นยำ และน่าทึ่งยิ่งขึ้น

ขวัญตาจึงอยากพาผู้อ่านมาทำความรู้จัก สำรวจความก้าวหน้า ความสำเร็จ และความท้าทายของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัมตลอดหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา

กำเนิดทฤษฎีควอนตัม

ทฤษฎีควอนตัมกำเนิดจากปัญหาที่การทดลองจำนวนมากในช่วงปี ค.ศ.1900 มีผลการทดลองที่ไม่สอดคล้องกับทฤษฎีใด ๆ ทางฟิสิกส์ก่อนหน้าเลย ตัวอย่างการทดลองที่สำคัญและโดดเด่นคือ

  • การแผ่รังสีของวัตถุดำ
  • ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก (แสงกระตุ้นโลหะให้เกิดกระแสไฟฟ้า)
  • การทดลองสเติร์น–แกร์ลาค ที่ชี้ให้เห็นว่าสมบัติแม่เหล็กของอะตอมมีธรรมชาติแบบควอนตัม

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมที่ขัดกับฟิสิกส์ที่เรารู้ก่อนหน้านี้

แม้แนวคิดพื้นฐานที่นำไปสู่ทฤษฎีควอนตัมจะค่อย ๆ พัฒนามาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 แต่หากจะปักหมุด “จุดกำเนิด” ของกลศาสตร์ควอนตัมจริง ๆ ก็คงต้องนับจากการตีพิมพ์งานของ แวร์เนอร์ ไฮเซนเบิร์ก ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1925 ที่รวมความแปลกประหลาดเหล่านั้นเข้าไว้ในระบบกลศาสตร์เดียวกัน ในชื่อ Über quantentheoretische Umdeutung kinematischer und mechanischer Beziehungen หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Umdeutung paper

ใครจะคาดคิดว่า ทฤษฎีที่ดูไกลตัวและว่าด้วยโลกอนุภาคเล็กจิ๋ว จะกลายเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยดูเหมือนหลุดมาจากนิยายวิทยาศาสตร์

ควอนตัมคืออะไร

ทฤษฎีควอนตัม (Quantum theories) คือกลุ่มทฤษฎีที่ใช้อธิบายสสาร พลังงาน และข้อมูล โดยถือว่าส่วนประกอบย่อยที่สุดประพฤติตามกฎของกลศาสตร์ควอนตัม หรือฟิสิกส์แบบควอนตัม (Quantum mechanics/physics)

ควอนตัมอยู่ที่ไหนบ้าง

ตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ฟิสิกส์ควอนตัมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจสมบัติของสสาร เพราะช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างอิเล็กตรอนในอะตอม ซึ่งเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติของสารต่าง ๆ

  • เราสามารถสร้าง หลอดไฟ LED หลากสีได้จากความรู้เรื่องระดับพลังงานของอิเล็กตรอน2
  • เรามี เครื่อง MRI ที่มองทะลุร่างกายได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือฉายรังสี เพราะเข้าใจว่าอะตอมมีสปินและสปินทำงานอย่างไร3
  • เรามี เซนเซอร์ตรวจจับแสงและฝุ่น45 เพราะอิเล็กตรอนรับพลังงานได้แบบจำเพาะ
  • เรามี โซลาร์เซลล์ เพราะเข้าใจปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก6 และยังใช้ควอนตัมช่วยคำนวณว่าสารใดเหมาะสมที่สุดในการทำโซลาร์เซลล์

ทั้งหมดนี้เรียกรวม ๆ ว่าเป็นการปฎิวัติควอนตัมครั้งที่หนึ่ง

ก้าวสู่การปฎิวัติควอนตัมครั้งที่สอง ควอนตัมกำลังจะไปอยู่ที่ไหน

เพียงช่วงเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมามนุษย์เราสามารถผลิตชิปจากเซมิคอนดักเตอร์ความละเอียดสูง ใช้งานแสงเลเซอร์ความถี่สูงและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดต่างๆได้อย่างแม่นยำ ทำให้เราสามารถสร้างและควบคุมสถานะควอนตัมได้ถึงระดับอนุภาค เปิดทางไปสู่เทคโนโลยีใหม่ที่โลกไม่เคยมีมาก่อนได้

หนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญ คือ คอมพิวเตอร์ควอนตัม ที่อาศัยการประมวลผลสถานะควอนตัมที่ละเอียดอ่อนจะเป็นแนวทางใหม่ที่ช่วยให้เราแก้ปัญหาซับซ้อนที่แม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันยังต้องใช้เวลาหลายปีได้อย่างรวดเร็ว และอาจให้คำตอบที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ธรรมดา ตัวอย่างปัญหาที่มีสำคัญได้แก่ ฝ

  • การจัดการการจราจรอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหารถติดในเมืองใหญ่7
  • การลดต้นทุนธุรกิจ ผ่านการจัดการห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่8
  • การบริหารความเสี่ยงและจัดพอร์ตการลงทุน เพื่อลดต้นทุนทางการเงินในวงกว้าง9

นอกจากการประมวลผลข้อมูล เรายังสามารถจำลองคุณสมบัติของวัสดุหรือการเกิดปฏิกิริยาเคมีด้วยระบบทางควอนตัมโดยตรงได้10อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์แบบคลาสสิก เครื่องจำลองแบบควอนตัม (Quantum simulator)11 ที่ทำนายโครงสร้างโมเลกุลโปรตีนจากข้อมูล DNA อย่างแม่นยำและรวดเร็วอาจหมายถึงกระบวนการออกแบบยาที่ประสิทธิภาพขึ้นและมีต้นทุนต่ำลง การค้นพบตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่สำหรับการผลิตซีเมนต์ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน หรือการหาโครงสร้าง Perovskite ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโซลาร์เซลล์ เป็นต้น

พลังการคำนวณที่น่าตื่นตาของคอมพิวเตอร์ควอนตัมก็นำมาซึ่งภัยคุกคามใหม่ในทางไซเบอร์เช่นกัน นั่นเพราะเทคโนโลยีการเข้ารหัสส่วนหนึ่งสามารถถูกถอดรหัสได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีแนวทางให้เปลี่ยนไปใช้การเข้ารหัสที่ทนทานต่อควอนตัมคอมพิวเตอร์หรือ Post-quantum cryptography (PQC) บ้างแล้วในหลายประเทศ12 รวมถึงประเทศไทยเองก็ตื่นตัวเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

อีกหนึ่งเทคโนโลยีควอนตัมที่มาแรงและมีแนวโน้มที่จะเริ่มใช้งานจริงคงต้องยกให้เซนเซอร์ควอนตัม(quantum sensor) ที่สร้างจากอะตอมหรือโมเลกุลขนาดเล็กและอาศัยคุณสมบัติความพัวพันทางควอนตัม (entanglement) ทำให้มีความละเอียดสูงกว่าเซนเซอร์ทั่วไป 13 ตัวอย่างก็เช่น

  • เซนเซอร์จากตำหนิในผลึกเพชร สามารถวัดสนามแม่เหล็กในเซลล์สิ่งมีชีวิต และอาจสร้างภาพเซลล์มนุษย์ได้ละเอียดกว่า MRI14 ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้แม่นยำยิ่งขึ้น
  • เซนเซอร์ความละเอียดสูงเพื่อการระบุตำแหน่งโดยไม่ต้องใช้ GPS15 เหมาะสำหรับการใช้งานใต้ดินหรือใต้น้ำลึก (ปัจจุบันถูกพัฒนาและสนใจมากในแวดวงการทหาร16)

ขวัญตากับควอนตัม

โอกาสครบรอบหนึ่งศตวรรษของกลศาสตร์ควอนตัมครั้งนี้ ขวัญตาขอใช้เป็นจังหวะชวนผู้อ่านชาวไทยมารับรู้ถึงความสำคัญของวิทยาการและเทคโนโลยีควอนตัมที่สัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของเรา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความแรกนี้จะช่วยจุดประกายความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับเรื่องราวและการพัฒนาของวิทยาศาสตร์ควอนตัม และในบทความถัดไป เราจะพาไปดูผลการทดลองบางอย่างที่ให้ผลที่แตกต่างจากฟิสิกส์ยุคก่อนควอนตัม และอธิบายว่าทฤษฎีควอนตัมถูกคิดขึ้นมาจากผลทดลองเหล่านั้นได้อย่างไร ฝากติดตามบทความต่อๆไปของพวกเราด้วยนะครับ/ค่ะ

จากใจของพวกเราทุกคน
ขวัญตา

อ้างอิงและข้อมูลเพิ่มเติม

Footnotes

  1. International Year of Quantum Science and Technology, “About IYQ”, IYQ 2025, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://quantum2025.org/about/.

  2. Institute of Physics, "LED lighting", IOP, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://www.iop.org/explore-physics/physics-around-you/sustainable-building/led-lighting

  3. The Nobel Prize, "The Nobel Prize in Physiology or Medicine 2003", The Nobel Prize, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://www.nobelprize.org/prizes/medicine/2003/press-release/

  4. AOI Sensors, "The Photoelectric Effect and Its Applications in Photoelectric Sensors", https://www.aoisensors.com/the-photoelectric-effect-and-its-applications-in-photoelectric-sensors/?utm_source=chatgpt.com

  5. Anne Corning, "CCD Sensors, Albert Einstein, and the Photoelectric Effect", Radiant Vision Systems, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://www.radiantvisionsystems.com/blog/ccd-sensors-albert-einstein-and-photoelectric-effect?utm_source=chatgpt.com

  6. The Editor of Encyclopedia Britannica, "Quantum Mechanics | Definition, Developements & Equations", Britannica, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://www.britannica.com/science/quantum-mechanics-physics

  7. Kulawik, J., D-Dave Systems, and Andrade, I., "Volkswagen optimizes traffic flow with quantum computers", Volkswagen Group, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://www.volkswagen-group.com/en/press-releases/volkswagen-optimizes-traffic-flow-with-quantum-computers-16995

  8. Quantum Technology and Application Consortium – QUTAC., Bayerstadler, A., Becquin, G. et al. Industry quantum computing applications. EPJ Quantum Technol. no.8 25, 2021, https://doi.org/10.1140/epjqt/s40507-021-00114-x.

  9. Lang, J., Zielinski, S., and Feld, S., "Strategic Portfolio Optimization Using Simulated, Digital, and Quantum Annealing" Applied Sciences 12, no.23 12288, 2022, https://doi.org/10.3390/app122312288

  10. A. Yu. Smirnov, S. Savel’ev, L. G. Mourokh, and F. Nori, “Modelling chemical reactions using semiconductor quantum dots,” Europhys. Lett., vol. 80, no. 6, p. 67008, Nov. 2007, doi: 10.1209/0295-5075/80/67008.

  11. T. H. Johnson, S. R. Clark, and D. Jaksch, “What is a quantum simulator?,” EPJ Quantum Technol., vol. 1, no. 1, July 2014, doi: 10.1140/epjqt10.

  12. National Institute of Standards and Technology, "Post-Quantum Cryptography," Computer Security Resource Center, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://csrc.nist.gov/projects/post-quantum-cryptography

  13. T. Feder, “New center for quantum sensing focuses on medical applications,” Physics Today, vol. 77, no. 5, pp. 24–26, May 2024, doi: 10.1063/pt.esph.sudu.

  14. J. R. Maze et al., “Nanoscale magnetic sensing with an individual electronic spin in diamond,” Nature, vol. 455, no. 7213, pp. 644–647, Oct. 2008, doi: 10.1038/nature07279.

  15. A. Kodigala et al., “High-performance silicon photonic single-sideband modulators for cold-atom interferometry,” Sci. Adv., vol. 10, no. 28, July 2024, doi: 10.1126/sciadv.ade4454.

  16. United States Space Force, “US Space Force scheduled to launch eighth X-37B mission,” Secretary of the Air Force Public Affairs, Accessed: Sep 19, 2025, [Online], Available: https://www.spaceforce.mil/News/Article-Display/Article/4256759/us-space-force-scheduled-to-launch-eighth-x-37b-mission/

A blog by Qwanta running on classical computers